loading...

Wednesday, May 4, 2016

เปิดปากแล้ว!! วัยรุ่นคนฟันชายพิการ สารภาพลงมือจริง แต่ไม่เจตนาทำให้ตาย พร้อมอ้างเหตุผลที่ทำลงไปแบบนี้!!…


เป็นเหตุการณ์ที่สุดสะเทือนใจ และได้รับความสนใจอยากมาก สำหรับกรณีวัยรุ่นโหด 6 คน รุมทำร้ายชายพิการวัย 36 ปี จนเสียชีวิต เหตุเพราะถูกแซวเรื่องขาเป๋ ผู้ตายจึงไม่พอใจด่าทอกลับ ไม่พอใจจึงยกพวกมารุมทำร้าย ขณะนี้เจ้าหน้าได้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 1 รายคือ นายพีรพล ยศพงศ์อนันต์ อายุ 21 ที่บาดเจ็บอยู่


 ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 ทาง สน.โชคชัย ได้นำตัวนายพีรพล ยศพงษ์อนันต์ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุใช้มีดแทงนายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ชายขาพิการ อาชีพส่งขนมปังเสียชีวิต มาสอบสวนที่สน.โชคชัย หลังแพทย์อนุญาตให้ผู้ต้องหาออกจากโรงพยาบาล


 โดยนายพีรพล ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาฆ่านายสมเกียรติ เพียงแต่บันดาลโทสะ เนื่องจากตัวเองถูกนายสมเกียรติ ใช้มีดฟันเข้าที่แขนซ้ายก่อน จนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ จึงใช้มีดที่ทางกลุ่มผู้ต้องหานำมาต่อสู้ป้องกันตัวเท่านั้น





 และยังกล่าวอีกด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเองและกลุ่มเพื่อนได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านร้านผู้เสียชีวิตจริง แต่ไม่ได้มีการด่าทอ เพียงแค่พูดแซวว่าต้องการซื้อขนมปังเท่านั้น และต่อมาก็ได้ถูกผู้เสียชีวิตตามหาเรื่องไปจนถึงที่พัก ซึ่งอยู่ปากซอยลาดพร้าว-วังหิน 48 ตนเองได้เป็นไกล่เกลี่ย และขอโทษผู้เสียชีวิตแล้ว จึงคิดว่าจบปัญหาแล้วจึงได้แยกย้ายกันกลับที่พัก แต่มีกลุ่มเพื่อนอีก 4 คน ที่ต้องใช้เส้นทางกลับบ้านโดยผ่านหน้าร้านขนมปัง ซึ่งก็มาพบกับผู้เสียชีวิตอีกจึงเป็นเหตุให้เกิดการด่าทอ จนนำมาซึ่งการก่อเหตุดังกล่าว



เบื้องต้นกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพภาพก่อนเกิดเหตพบว่า นายสมเกียรติ ได้ขับรถจักรยานยนต์ตามไปที่อพาร์ตเม้นของกลุ่มผู้ต้องหา 2 รอบ รอบแรกมีการพูดคุยกันที่ด้านหน้าจากนั้นแยกย้ายกันกลับทั้งสองฝ่าย ต่อมาผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมาอีกรอบแต่ไม่พบใครจึงกลับร้าน ต่อมาภาพวงจรปิดภายในร้ายขนมปังบันทึกภาพนายสมเกียรติกลับมาถึงร้านสักพักมีผู้ต้องหา 4 คนบุกเข้ามาในร้านแต่ถูกหลานชายนายสมเกียรติห้ามไว้ ซึ่งนายสมเกียรติ จึงได้คว้ามีดดาบออกมาไล่ฟันกลุ่มวัยรุ่นที่บุกรุก จนหนีกระเจิงวิ่งออกมาหลบที่หน้าปากซอยโชยชัย4 แยก 69 ต่อมาได้มีผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์ตามมาอีก 2 คน และเกิดเหตุขึ้น


ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แต่จากหลักฐานที่ได้มานั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินคดีเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ พกพาอาวุธมีด บุกรุกเคหะสถาน และ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ที่มา:http://www.doo-deedee.com/6635
Share:

0 comments:

Post a Comment